เมนู

อุทกังขึ้นไปบนอากาส อุทกังที่กระทบฟันปลาทั้งหลายนั้น ดังเสียงสนั่นก้องในประเทศ
ท้องมหาสมุทร อุทกังนี้ร้องจะมิเป็นน้ำตายหรือ ด้วยเหตุมีเสียงร้องเหมือนอุทกังที่ต้ม ตกว่าจะ
ถือตามเดียรถีย์นั้นไม่สม ด้วยอุทกังต้มก็ร้อง ที่ไม่ต้มก็ร้อง เหตุฉะนี้จะเชื่อถ้อยฟังคำเดียรถีย์
นั้นเชื่อไม่ได้ ขอบพิตรพระราชสมภารจงเข้าพระทัยด้วยประการฉะนี้
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี ก็สิ้นความสงสัย ให้สาธุการดุจนัยดังวิสัชนามา
อุทกัสส สัตตชีวิปัญหา คำรบ 5 จบเพียงนี้

คีหิปัพพชิตานัง ขีณาสวปัญหา ที่ 6


ราชา อาห

สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีบรมกษัตริย์มีพระราชโองการตรัสถาม
ว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้ประเสริฐ ตุมฺเห ภณถ พระผู้เป็นเจ้ากล่าวไว้กับโยมว่า โย
คีหิ อรหตฺตํ ปตฺโต
คฤหัสถ์ผู้ใดถ้าสำเร็จแก่พระอรหัตแล้ว จะมีคติ 2 ประการ คือให้บรรพชา
เป็นภิกษุเสียในวันสำเร็จพระอรหัตนั้น 1 ถ้าไม่บรรพชาก็จะเข้าพระนิพพานไม่อาจล่วงวันนั้นไปได้
1 นี่แหละโยมจะถาม ที่ว่าท่านเป็นคฤหัสถ์ได้พระอรหัตในวันนั้นก็จะบวชแล แต่ทว่าบางทีจะ
ขัดบาตรและจีวรด้วยหามิได้ทัน บางทีจะขัดพระอุปัชฌาย์อาจารย์หาไม่ทันกาลเพลาวันนั้น
คฤหัสถ์นั้นจะบวชตัวเอาได้หรือจะต้องรอให้พระอรหันต์ผู้มีฤทธิ์อื่นมาบวชให้หรือจะปรินิพ-
พาน เป็นประการใด
พระนาคเสนแก้ไขว่า มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภาร ชื่อว่าท่านผู้เป็น
คฤหัสถ์ตรัสรู้เป็นพระอรหันต์แล้ว จะบรรพชาเอาเองหาอุปัชฌาย์อาจราย์มิได้ สยํ ปพฺพชนฺโต
เมื่อบรรพชาเอาเองเช่นนั้นไซร้ เถยฺยํ อาปชฺเชยฺย ก็จะถึงซึ่งไถยเพศ ข้อหนึ่งที่ว่าจะคอยพระ
อรหันต์มีฤทธิ์ ถ้าว่าล่วงวันไปก็จะสิ้นอายุลุแก่พระนิพพานสิ้น
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาค-
เสนผู้ปรีชาญาณ ถ้ากระนั้นภูมิพระอรหันต์มิร้อนนักหรือ ผู้เป็นเจ้า
พระนาคเสนถวายพระพรว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภาร พระอรหัตจะร้อน
หามิได้ ภูมิคฤหัสถ์ต่ำไม่ควรที่จะทรงภูมิพระอรหัตอันบริสุทธิ์ อนึ่งโสด เปรียบเหมือนโภชนะ
อายุปาลกํ อันจะรักษาอายุสัตว์ ชีวิตรกฺขกํ เป็นของเลี้ยงชีวิต เมื่อเตโชธาตุในกายสัตว์สำหรับที่

จะเผาอาหารในลำไส้ให้ย่อยยับวิกลอ่อนไป สัตว์บริโภคอาหารโภชนะเข้าไปตกลงถึงลำไส้แล้ว
เตโชธาตุมิอาจเผาอาหารให้ย่อยยับไปได้ สัตว์ที่บริโภคนั้นก็ถึงซึ่งชีวิตตักษัยกระทำกาล-
กิริยาตาย จะเหมาว่าโภชนะกินตายหรือ อติทุพฺพลตา เหตุทั้งนี้เพราะเตโชธาตุทุพพลภาพอ่อน
ไปฉันใด ดูรานะบพิตร พระอรหัตเล่าเมื่อคฤหัสถ์ได้ไม่บรรพชาเสียในวันนั้นจะเข้าพระนิพพาน
คีหิทุพฺพลตาย ด้วยภูมิคฤหัสถ์ทุพพลภาพ จะเหมาว่าพระอรหัตจะร้อนกระไรได้ อุปไมย
เหมือนบุคคลบริโภคโภชนะ เตโชธาตุอ่อนเผาไม่ได้ ไม่ควรจะเหมาเอาโภชนะว่ากินตายฉะนั้น
มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภาร อีกประการหนึ่ง เปรียบดังกำหญ้าอันน้อย
บุคคลปักไว้ที่ภูมิภาคแผ่นดิน ยังมีบุคคลผู้หนึ่งเอาศิลาใหญ่มาทับลง กำหญ้าน้อยมิอาจทาน
ศิลาใหญ่ไว้ได้ ย่อมจะบี้แบนย่อยยับไป ยถา มีครุวนาฉันใด พระอรหัตสิสมควรจะทรงได้แต่ภูมิ
บรรพชาเป็นภูมิใหญ่ ภูมิคฤหัสถ์ต่ำนักมิอาจทรงได้ อุปไมยเหมือนกำหญ้านั้น อีกประการหนึ่ง
ดูรานะบพิตรพระราชสมภาร ถ้ามิฉะนั้นเปรียบดุจบุรุษอันเป็นหินชาติต่ำโคตรต่ำวงศ์พงศ์พันธุ์
ต่ำตระกูล ปริตฺตปุญฺโญ มีบุญอันน้อยถอยทั้งสติปัญญา ครั้นราชสมบัติมาถึงเข้าได้เป็นเจ้า
จอมกษัตริย์ เสวยราชสมบัติก็มิอาจเสวยได้นาน มักจะต้องประหารถึงแก่กาลกิริยา ด้วยเหตุ
ว่าบุญนั้นน้อย ชาติต่ำไม่สมควรที่จะทรงความเป็นใหญ่ไว้ได้ฉันใดก็ดี เพศภูมิคฤหัสถ์นี้ ต่ำช้า
มิอาจสามารถที่ว่าจะทรงไว้ซึ่งพระอรหัตไว้นาน ปานดุจบุรุษหินชาติมิอาจเสวยราชสมบัติบวร
เศวตฉัตรนั้น
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีได้ทรงฟังพระนาคเสนวิสัชนาฉะนี้ก็ชื่นชมปรีดา
สาธุการ สรรเสริญพระนาคเสนต่าง ๆ ในกาลบัดนั้น
คีหิปัพพชิตานัง ขีณาสวปัญหา คำรบ 6 จบเพียงนี้

โลเกนัตถิภาวปัญหา ที่ 7


ราชา

สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี มีพระราชโองการตรัสถามอรรถปัญหาว่า
ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชาญาณ บุคคลทั้งหลายจะเป็นพระพุทธเจ้าก็ดี พระ
ปัจเจกโพธิเจ้าก็ดี พระสาวกเจ้าก็ดี มีปรากฏในโลก บุคคลจะเป็นบรมกษัตริย์จักรพรรดิราชก็ดี
เป็นพระยาประเทศราชก็ดี เป็นเทวดาก็ดี เป็นมนุษย์ก็ดี เป็นผู้มีทรัพย์หรือหาทรัพย์มิได้ก็ดี
จะเป็นทุกข์ก็ดี จะเป็นสุขก็ดี จะเป็นเพศหญิงเพศชายก็ดี บุคคลจะกระทำบุญกระทำบาปก็ดี